เนื่องจากวันนี้มีความตั้งใจเขียนค่อนข้างเยอะ รวมไปถึงได้ศึกษาเคล็ดหลักวิชาเพิ่มมากขึ้น
ประกอบกับด้วยวัยที่มากขึ้น 5555+ ก็มองว่าช่วงเวลาที่ตัวผมเองได้ลงทุนนั้น
มันก็มีข้อผิดพลาดค่อนข้างเยอะ และสิ่งต่างๆก็เปลี่ยนไปมากมาย
แต่สิ่งที่ไม่เคยเปลี่ยนเลยคือ แนวทาง VI (Value Investor) สำหรับผมแล้วยังเป็นแนวทางหลัก
ส่วน Technical นั้นผมศึกษาไว้เป็นแนวทางรอง เพื่อดูอารมณ์ตลาดว่าตอนนี้ตลาดคิดยังไง
คนส่วนใหญ่คิดแบบไหน
สิ่งที่ผมได้เรียนรู้ตลอดเวลาการลงทุนที่ผ่านมาผมเรียนรู้อะไรบ้าง ขอแบ่งเป็นข้อๆ
- การซื้อหุ้นต้องพิจารณาดังนี้ รายได้มากขึ้น กำไรมากขึ้น เงินปันผลก็ควรจะมากขึ้น
- การซื้อหุ้นต้องพิจารณาที่มูลค่า ไม่ใช่ราคา ที่สำคัญ พื้นฐานต้องดี
- 56-1 เป็นสิ่งจำเป็นที่จะทำให้เรารู้ว่ากิจการทำอะไร มีแนวโน้มยังไง และพอจะเชื่อได้ไหม
- VI โหดๆ เขาติดตามและอ่าน 56-1 ทุกบริษัทที่เขาสนใจ
- การซื้อหุ้นต้องมี Margin of Safety ตอนเด็กๆผมไม่เคยเข้าใจมันเลย
- จังหวะการซื้อ ผมมองว่าอันนี้เป็นเรื่องที่ Technical มีส่วนอยู่หน่อยๆ
ทั้งนี้ทั้งนั้น ข้อต่างๆที่ผมสรุปมา หากจะให้ผมอธิบายเกรงว่าจะอธิบายได้ไม่ชัดเจนถึงรายละเอียด
ซึ่งแนะนำว่าหากนักลงทุนหรือใครที่ยังไม่ทราบ
ควรศึกษาเพิ่มเติมน่าจะครอบคลุมถึงรายละเอียดมากกว่า
ตัวอย่างข้อผิดพลาดที่ผมเคยทำมา
- ซื้อหุ้นดี ที่ราคาแพงไป
- ซื้อหุ้นตามเพื่อน
- ซื้อหุ้นในอุตสาหกรรมเดียวกันมากเกินไป
- ซื้อหุ้นที่ไม่มี Upside หรือ Margin of Safety และใจร้อนเกินเวลาอยากได้หุ้น
ท้ายที่สุดแล้วหุ้นเหล่านี้กว่า 90% ที่ผมซื้อนั้นเรียกได้ว่าไม่เจ็บตัว
แต่ทำให้ผลตอบแทนการลงทุนนั้นไม่ดีเท่าที่ควร
ส่วนหลังจากนี้ในปี 2559 นั้นผมเองก็ได้ลองใช้แนวทางของทั้ง VI (95%) และ Technical (5%)
เอามาประยุกต์เป็นแนวทางของผมเองและใช้ตัวเองในการทดลองแนวทางนี้บนเงินจริง!
แน่นอนว่า ไม่เจ็บตัว ย่อมไม่ได้เรียนรู้
อะไรที่ทำให้เราเจ็บ แต่ไม่ตาย มันจะทำให้เราแข็งแกร่งขึ้นเสมอ
SET เมื่อต้นปี เปิดที่ 1286 และตอนนี้อยู่ที่ 1549 หรือขึ้นมาที่ 20.45%
SET เมื่อต้นปี เปิดที่ 1286 และตอนนี้อยู่ที่ 1549 หรือขึ้นมาที่ 20.45%
ซึ่งหุ้นที่ผมซื้อตั้งแต่ต้นปีนั้นผลตอบแทนเฉลี่ยนั้นสูงกว่าตลาดอยู่บ้างพอประมาณ
ตอนนี้เองผมก็ไม่ทราบว่าสิ่งที่ทำได้ในช่วงต้นปีที่ผ่านมา มันคือฟลุค
หรือมันเป็นแนวทางที่ถูกต้องอย่างแท้จริง
แต่ที่แน่ๆก็คือ ในการที่คนเราจะมีความมั่งคั่งอย่างยั่งยืนนั้น
สิ่งแรกเลยที่ต้องมีคือวินัยในการออม เก็บเงินทุกเดือนเพื่อลงทุน นี่คือบันไดขั้นแรกสำหรับการลงทุน
สำหรับเรื่องนี้
แต่ที่แน่ๆก็คือ ในการที่คนเราจะมีความมั่งคั่งอย่างยั่งยืนนั้น
สิ่งแรกเลยที่ต้องมีคือวินัยในการออม เก็บเงินทุกเดือนเพื่อลงทุน นี่คือบันไดขั้นแรกสำหรับการลงทุน
สำหรับเรื่องนี้
ผมขอเวลาทดสอบอีก 2-3 ปี เพื่อให้ชัดเจนว่าแนวทางนี้สามารถเอาชนะตลาดได้อย่างต่อเนื่อง
แล้วจะมาอัพเดทกันใหม่อีกครั้ง